น้ำตาลส่งผลเสียต่อผิว

ติดหวาน ผิวเสียโดยที่คุณไม่รู้ตัว รักษาได้อย่างไรบ้าง

การติดหวานไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อผิวพรรณอย่างที่คุณอาจไม่รู้ตัว มาดูกันว่าน้ำตาลทำร้ายผิวสวยของคุณได้อย่างไร

น้ำตาลส่งผลอย่างไรกับผิว

  • กระบวนการไกลเคชั่น (Glycation) ตัวการทำลายคอลลาเจน เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป โมเลกุลน้ำตาลจะจับตัวกับโปรตีนในร่างกาย รวมถึงคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของผิว
    กระบวนการนี้เรียกว่า “ไกลเคชั่น” ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพ ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยก่อนวัย และผิวหย่อนคล้อย
  • สิวเห่อ ผิวอักเสบ น้ำตาลกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ซึ่งส่งผลให้ฮอร์โมนแอนโดรเจนเพิ่มขึ้น ฮอร์โมนแอนโดรเจนกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง ทำให้รูขุมขนอุดตัน เกิดสิวอักเสบ และผื่นแดง น้ำตาลยังส่งผลให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวหนัง ทำให้ผิวอักเสบและระคายเคืองง่ายขึ้น
  • ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส กระบวนการไกลเคชั่นทำให้ผิวหนังสูญเสียความกระจ่างใส เกิดความหมองคล้ำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ น้ำตาลยังส่งผลให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระ ซึ่งทำลายเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัยและขาดความสดใส
  • ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น น้ำตาลส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวหนังแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น และลอกเป็นขุย ผิวที่แห้งกร้านจะอ่อนแอและระคายเคืองง่ายขึ้น
  • โรคผิวหนังกำเริบ การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปอาจกระตุ้นให้โรคผิวหนังบางชนิดกำเริบ เช่น โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema)

เคล็ดลับดูแลผิวสวย ห่างไกลน้ำตาล

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ลดปริมาณน้ำตาล หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มและอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ขนมหวาน น้ำผลไม้สำเร็จรูป อ่านฉลากโภชนาการอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำตาลในอาหาร เลือกทานผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น เบอร์รี่ แอปเปิ้ลเขียว
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นทานผักผลไม้ที่มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ทานอาหารที่มีโปรตีนและไขมันดี เพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและขับสารพิษออกจากร่างกาย
  • การดูแลผิวจากภายนอก ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับสภาพผิว เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกิน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารเคมีที่ระคายเคือง
  • บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี เพื่อปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เช่น เรตินอล เปปไทด์ ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เพื่อป้องกันผิวแห้งกร้าน
  • ปกป้องผิวจากแสงแดด ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันรังสี UV ที่ทำร้ายผิว สวมหมวกและแว่นกันแดดเมื่อออกแดด
  • ผลัดเซลล์ผิว ผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส เลือกผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยนและไม่ทำร้ายผิว
  • มาส์กหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อบำรุงผิวอย่างล้ำลึกและขจัดสารพิษ เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เช่น วิตามินซี ไนอาซินาไมด์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น
  • ลดความเครียด ความเครียดอาจส่งผลเสียต่อผิวได้ การทำกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด เช่น โยคะ หรือการทำสมาธิ จะช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้น
Scroll to Top